กิฟฟารีน giffarine www.no-poor.com
ธุรกิจเสริม กิฟฟารีน
กิฟฟารีน ธุรกิจเสริม อาชีพเสริม รายได้เสริมออนไลน์ ปรึกษาเรา ตรวจสอบดวงชะตา ศึกษาพลังธาตุในตัวคุณ วิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อน ภาวะผู้นำและลักษณะงานที่เหมาะกับคุณ ก่อนเริ่มธุรกิจ-คุยกับเราที่ no-poor.com

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

สอนให้รวย..ด้วยธุรกิจขายตรงกิฟฟารีน ด้วยวิธีการทำงานแบบ Online

เราสามารถเลือกทำอาชีพได้หลายอย่าง เช่น เป็นมนุษย์เงินเดือน, ทำธุรกิจ SMEs, ทำอาชีพอิสระ ซึ่งการเป็นมนุษย์เงินเดือนก็มีจุดด้อย คือ งานหนักแต่รายได้น้อย เสียภาษีมาก เสี่ยงต่อความไม่มั่นคงเช่นการถูกให้ออกจากงาน,การเกษียรอายุก่อนกำหนด , แล้วยังหาความก้าวหน้าได้ยาก เงินเดือนขึ้นปีละ 1 ครั้ง บางบริษัทไม่มี Bonus ซึ่งอาจทำให้หลาย ๆ คนอยากเปลี่ยนมาทำธุรกิจ SMEs แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องใช้เงินลงทุนสูงพอควร หากไม่มีเงินทุนก็ต้องกู้ยืมก่อหนี้สิน และจากข้อมูลในอดีตพบว่าครึ่งหนึ่งของธุรกิจ SMEs อยู่ได้ไม่ถึงปีก็ต้องปิดกิจการลง

ทางเลือกที่ดีกว่า คือ ศึกษาและทำอาชีพขายตรงในรูปใหม่ด้วยวิธีการ Online คุณแทบไม่ต้องลงทุน ลงแต่แรงกายและกำลังสมอง ขายตรงกิฟฟารีนคุณสามารถทำได้แม้ไม่ชอบงานขาย หรือขายสินค้าไม่เป็น จุดเด่นธุรกิจของเราคือ สินค้ามีคุณภาพ, แบรนด์เป็นที่รู้จัก, มีระบบฝึกอบรม , เครื่องมือสนับสนุนการทำงานทุกรูปแบบ, มีระบบสร้างเครือข่ายและระบบพี่เลี้ยง,มีทีมที่ปรึกษาด้านธุรกิจ-บริการและเทคโนโลยี ซึ่งทำให้เราประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ธุรกิจขายตรงยังมีโอกาสให้ผลตอบแทนสูงมากน้อยตามกำลังกาย กำลังใจที่ทุ่มเทลงไป ลงทุนน้อยความเสี่ยงต่ำ นี่แหละคืออิสระด้านเวลาและการสร้างรายได้อย่างไร้ความเสี่ยงที่ชีวิตเราเรียกร้อง

ไขข้อสงสัย..กับเราที่นี่
ทำไมต้องเสี่ยง....ถ้ามีทางเลือก
วิถีมนุษย์เงินเดือน
เจ้าของธุรกิจ
Case: ธุรกิจเฟรนไชส์
วิถีนักธุรกิจขายตรง (รูปแบบใหม่)
ความหมายของธุรกิจขายตรง
ลักษณะของการขายตรง
การขายตรงที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ความสำเร็จของธุรกิจและการลงทุน
ความสำเร็จของธุรกิจขายตรง
..คุยและพบคำตอบกับทีมของเราได้ที่นี่..
http://www.no-poor.com/
http://www.up-toyou.net/

วันพุธที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

สงครามธุรกิจเครือข่าย

สงครามธุรกิจเครือข่าย บทเรียนการตลาดสู่ความสำเร็จ
โฆษณาทางทีวี สร้างโอกาสให้ขายตรง

ในอดีตหากจะเปรียบเทียบธุรกิจขายตรงในมุมมองของผู้บริโภคส่วนใหญ่แล้วอาจมองว่าเป็นธุรกิจสี เท่าที่ค่อนไปทางดำ แต่ ณ ปัจจุบัน แม้สีเทานั้นจะยังคงเหลือร่องรอยเจือจางอยู่บ้าง แต่ต้องยอมรับว่า “ขายตรง”ได้รับการยอมรับมากขึ้น ดังนั้นเราจึงเห็นบริษัทขายตรงหลายรายรุกตลาดอย่างหนักหน่วงผ่านสื่อ Above the line มากขึ้น ชนิดที่ว่าไม่มีใครยอมใคร โดยเฉพาะในช่วงเวลาประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา ภาพยนตร์โฆษณาขายตรงปรากฏให้เห็นบ่อยครั้งและทวีความถี่ขึ้นเรื่อยๆ และหากพิจารณาแล้วจะพบว่าสำหรับธุรกิจขายตรงแบบ MLM หรือขายตรงหลายชั้น ขณะนี้จะต่อสู้กันด้วยภาพยนตร์โฆษณาสรรหาพนักงานขาย โดยเฉพาะ 2 รายใหญ่ คือ แอมเวย์ และกิฟฟารีน ขณะที่โฆษณาของขายตรงแบบ SLM หรือขายตรงชั้นเดียว จะมุ่งเน้นการโฆษณาเพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นมิสทีน หรือคิวท์เพรส

จากข้อมูลการวิจัยของบริษัท นาโนเซิร์ซ จำกัด ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับการติดตามข้อมูลของบุคคลทั่วไปที่มีต่อภาพลักษณ์ของสินค้าในธุรกิจขายตรง พบว่า ธุรกิจขายตรงเลือกใช้ช่องทางสื่อโฆษณาทีวีเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น

ตรวจแถว สำรวจภาพลักษณ์ขายตรง

1. กลุ่มตัวอย่าง 200 คน เฉพาะในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยไม่จำเป็นว่ากลุ่มตัวอย่างจะเคยเลือกซื้อหรือเคยใช้ผลิตภัณฑ์ของสินค้าในธุรกิจขายตรงมาก่อนหรือไม่

2. กลุ่มตัวอย่างแบ่งเป็นเพศชาย 53.5 % เพศหญิง 46.5%

3. ช่วงอายุของผู้ตอบแบบสอบถามมากที่สุดคือ ในช่วงอายุ มากกว่า 36 ปี 38.0% รองลงมาคือ ในช่วงอายุ 26 – 35 ปี และ ช่วงอายุ ไม่เกิน 26 ปี ในสัดส่วนที่เท่ากัน คือ 31.0%

4. รายได้ของผู้ตอบแบบสอบถาม แบ่งเป็นผู้มีรายได้อยู่ระหว่าง 15,001 – 20,000 บาท 49.0% ช่วงรายได้ ไม่เกิน 15,000 บาท 32.5% และรายได้มากกว่า 20,000 บาท 18.5%

5. ระดับการศึกษา อยู่ในระดับการศึกษาปริญญาตรี 78.0% อยู่ระหว่างการศึกษาระดับปริญญาตรี 15.0%

6. อาชีพ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ พนักงานบริษัทเอกชน 57.5% รองลงมาคือ ข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสาหกิจ และ นักเรียน / นักศึกษา ตามลำดับ อีกทั้งสถานภาพของกลุ่มตัวอย่างโดยส่วนใหญ่มีสถานภาพ โสด ตามมาด้วยสถานภาพสมรส

ดูโฆษณาขายตรงเวลาไหน

จากผลวิจัยส่วนใหญ่จะมีพฤติกรรมใกล้เคียงกันทุกช่วงอายุ โดยช่วงเวลาส่วนใหญ่ที่เปิดรับโฆษณาขายตรง กล่าวคือ ช่วงเวลาที่สะดวกคือ 16.00-20.00 น. ขณะที่ช่วงเวลารองลงมาคือ 06.00-08.00 น. เป็นนัยสำคัญที่บ่งชี้ได้ว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ที่ทำงานประจำอยู่แล้ว มีระยะเวลาที่สะดวกต่อการรับข่าวสารโฆษณาในช่วงก่อนไปทำงานและหลังเวลางาน ดังนั้นหากโฆษณาขายตรงต้องการเจาะกลุ่มนี้เพื่อดึงดูดใจให้มาเป็นพนักงานขายจึงควรเลือกโฆษณาในช่วงดังกล่าว

สื่อโทรทัศน์...สื่อหลักขายตรง

เดินตามรอย Consumer Product สำหรับผลิตภัณฑ์ขายตรงที่ต้องอาศัยพลังแห่งเครือข่าย เมื่อต้องการพลังระดับแมส ก็จำเป็นที่จะต้องใช้สื่อแมสในการเข้าถึงผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด แน่นอน สื่อโทรทัศน์คือตัวเลือกอันดับแรก จากการสอบถามกับกลุ่มผู้บริโภคในการรับชมข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อโทรทัศน์นั้น โดยปกติจะรับชมอยู่ที่ประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง 40.0% รองลงมาคือ ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง 28.5%


นอกเหนือจากสื่อโทรทัศน์แล้วผู้บริโภคยังรู้จักธุรกิจขายตรงผ่านสื่ออื่นๆ โดยในแต่ละช่วงอายุจะมีพฤติกรรมแตกต่างกันออกไป โดยกลุ่มอายุ 18-25 ปี รับทราบข้อมูลของธุรกิจขายตรงจากสื่ออินเทอร์เน็ตมากที่สุด แต่สำหรับในช่วงอายุ 26-35 ปี นั้นรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจขายตรงจากสื่อโทรทัศน์มากที่สุด และสำหรับกลุ่มอายุ มากกว่า 36 ปี จะรับทราบข้อมูลของธุรกิจขายตรงจากสื่อหนังสือพิมพ์มากที่สุด


สิงหาคม-กันยายน 2 เดือนร้อนสงครามโฆษณาขายตรง


เร้าความสนใจยังไงก็ต้องทีวี
จากผลสำรวจพบว่า ผู้บริโภคเห็นสื่อที่เหมาะสมกับธุรกิจขายตรง นั่นหมายถึงว่ามีโอกาสจะจูงใจให้ผู้บริโภครับสารและเกิดพฤติกรรมการสมัครเป็นพนักงานขายหรือเกิดพฤติกรรมการซื้อสินค้าขายตรงได้นั้น จะต้องมุ่งเน้นที่โฆษณาทีวี ขณะเดียวกันหากเป็นญาติสนิทมิตรสหายก็มีอิทธิพลรองลงมา ส่วนโฆษณาทางอินเทอร์เน็ตก็มีผลต่อการรับรู้และทรงประสิทธิภาพเป็นอันดับต่อมา


ดังนั้นในฐานะสื่อที่ทรงอิทธิพลสูงสุดในระดับแมส การใช้จ่ายงบโฆษณาของธุรกิจขายตรงจะยังคงวางกลยุทธ์ผ่านสื่อทีวีเป็นหลัก เพราะส่งผลต่อการรับรู้และจดจำแบรนด์ ตลอดจนเป็นการเปิดโอกาสสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่ดีให้กับกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่าสื่อประเภทอื่น

ที่มา: http://www.positioningmag.com/Magazine/Details.aspx?id=52774

http://www.no-poor.com/
http://www.up-toyou.net/

วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

รักตัวเองเป็นใหม

การเรียนรู้ที่จะรักตัวเองคือความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะตัวเราคือคนที่เราต้องอยู่ด้วยตลอดชีวิต ถ้าเราไม่รักตัวเองให้เป็น แล้วเราจะมีความสุขในชีวิตได้อย่างไร
เริ่มต้นด้วยการบอกตัวเองทุกวันว่า ฉันคือคนคนเดียวที่ฉันจะมีความสัมพันธ์อย่างแนบแน่นตลอดชีวิตของฉัน ฉันจึงเลือกที่จะ


-รักตัวเองอย่างไม่มีเงื่อนไขในแบบที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้
-ยอมรับและพอใจในสิ่งที่ฉันมีอยู่ แม้จะไม่รวย จะไม่มีอะไรดีเหมือน ๆ คนอื่น
-ให้เกียรติและยึดมั่นในตัวเองเสมอ
-เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของตัวเอง
-ดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่ฉันจะได้ดูแลคนอื่นได้
-เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เพื่อพัฒนาตัวเองให้เติบโต
-รักในสิ่งต่าง ๆ ที่ฉันทำอยู่
-ใช้ชีวิตอย่างสบาย ๆ
-กระทำต่อตัวเองด้วยความรัก ทะนุถนอม
-ให้อภัยตัวเองในทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่


ใครสมควรได้รับการขอบคุณไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญคือความรู้สึกขอบคุณตัวเราเองต่างหาก เพราะความรู้สึกนี้ทำให้เราอิ่มเอิบ พอใจ ซาบซึ้ง รู้สึกว่าเราช่างเป็นคนโชคดีอะไรเช่นนี้ที่มีสิ่งน่าขอบคุณมากมายเหลือเกิน ทำให้รักตัวเองมากขึ้น ทำให้เรามีพลังเข้มแข็งในการดำรงชีวิตอย่างมีความสุข และสามารถเผื่อแผ่ความรักให้ผู้อื่นได้ด้วย

http://www.no-poor.com/
http://www.up-toyou.net/

สงครามธุรกิจเครือข่าย บทเรียนการตลาดสู่ความสำเร็จ

โฆษณาทางทีวี สร้างโอกาสให้ขายตรง

ในอดีตหากจะเปรียบเทียบธุรกิจขายตรงในมุมมองของผู้บริโภคส่วนใหญ่แล้วอาจมองว่าเป็นธุรกิจสี เท่าที่ค่อนไปทางดำ แต่ ณ ปัจจุบัน แม้สีเทานั้นจะยังคงเหลือร่องรอยเจือจางอยู่บ้าง แต่ต้องยอมรับว่า “ขายตรง”ได้รับการยอมรับมากขึ้น ดังนั้นเราจึงเห็นบริษัทขายตรงหลายรายรุกตลาดอย่างหนักหน่วงผ่านสื่อ Above the line มากขึ้น ชนิดที่ว่าไม่มีใครยอมใคร โดยเฉพาะในช่วงเวลาประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา ภาพยนตร์โฆษณาขายตรงปรากฏให้เห็นบ่อยครั้งและทวีความถี่ขึ้นเรื่อยๆ และหากพิจารณาแล้วจะพบว่าสำหรับธุรกิจขายตรงแบบ MLM หรือขายตรงหลายชั้น ขณะนี้จะต่อสู้กันด้วยภาพยนตร์โฆษณาสรรหาพนักงานขาย โดยเฉพาะ 2 รายใหญ่ คือ แอมเวย์ และกิฟฟารีน ขณะที่โฆษณาของขายตรงแบบ SLM หรือขายตรงชั้นเดียว จะมุ่งเน้นการโฆษณาเพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นมิสทีน หรือคิวท์เพรส

จากข้อมูลการวิจัยของบริษัท นาโนเซิร์ซ จำกัด ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับการติดตามข้อมูลของบุคคลทั่วไปที่มีต่อภาพลักษณ์ของสินค้าในธุรกิจขายตรง พบว่า ธุรกิจขายตรงเลือกใช้ช่องทางสื่อโฆษณาทีวีเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น

ตรวจแถว สำรวจภาพลักษณ์ขายตรง

1. กลุ่มตัวอย่าง 200 คน เฉพาะในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยไม่จำเป็นว่ากลุ่มตัวอย่างจะเคยเลือกซื้อหรือเคยใช้ผลิตภัณฑ์ของสินค้าในธุรกิจขายตรงมาก่อนหรือไม่

2. กลุ่มตัวอย่างแบ่งเป็นเพศชาย 53.5 % เพศหญิง 46.5%

3. ช่วงอายุของผู้ตอบแบบสอบถามมากที่สุดคือ ในช่วงอายุ มากกว่า 36 ปี 38.0% รองลงมาคือ ในช่วงอายุ 26 – 35 ปี และ ช่วงอายุ ไม่เกิน 26 ปี ในสัดส่วนที่เท่ากัน คือ 31.0%

4. รายได้ของผู้ตอบแบบสอบถาม แบ่งเป็นผู้มีรายได้อยู่ระหว่าง 15,001 – 20,000 บาท 49.0% ช่วงรายได้ ไม่เกิน 15,000 บาท 32.5% และรายได้มากกว่า 20,000 บาท 18.5%

5. ระดับการศึกษา อยู่ในระดับการศึกษาปริญญาตรี 78.0% อยู่ระหว่างการศึกษาระดับปริญญาตรี 15.0%

6. อาชีพ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ พนักงานบริษัทเอกชน 57.5% รองลงมาคือ ข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสาหกิจ และ นักเรียน / นักศึกษา ตามลำดับ อีกทั้งสถานภาพของกลุ่มตัวอย่างโดยส่วนใหญ่มีสถานภาพ โสด ตามมาด้วยสถานภาพสมรส

ดูโฆษณาขายตรงเวลาไหน

จากผลวิจัยส่วนใหญ่จะมีพฤติกรรมใกล้เคียงกันทุกช่วงอายุ โดยช่วงเวลาส่วนใหญ่ที่เปิดรับโฆษณาขายตรง กล่าวคือ ช่วงเวลาที่สะดวกคือ 16.00-20.00 น. ขณะที่ช่วงเวลารองลงมาคือ 06.00-08.00 น. เป็นนัยสำคัญที่บ่งชี้ได้ว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ที่ทำงานประจำอยู่แล้ว มีระยะเวลาที่สะดวกต่อการรับข่าวสารโฆษณาในช่วงก่อนไปทำงานและหลังเวลางาน ดังนั้นหากโฆษณาขายตรงต้องการเจาะกลุ่มนี้เพื่อดึงดูดใจให้มาเป็นพนักงานขายจึงควรเลือกโฆษณาในช่วงดังกล่าว

สื่อโทรทัศน์...สื่อหลักขายตรง

เดินตามรอย Consumer Product สำหรับผลิตภัณฑ์ขายตรงที่ต้องอาศัยพลังแห่งเครือข่าย เมื่อต้องการพลังระดับแมส ก็จำเป็นที่จะต้องใช้สื่อแมสในการเข้าถึงผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด แน่นอน สื่อโทรทัศน์คือตัวเลือกอันดับแรก จากการสอบถามกับกลุ่มผู้บริโภคในการรับชมข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อโทรทัศน์นั้น โดยปกติจะรับชมอยู่ที่ประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง 40.0% รองลงมาคือ ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง 28.5%


นอกเหนือจากสื่อโทรทัศน์แล้วผู้บริโภคยังรู้จักธุรกิจขายตรงผ่านสื่ออื่นๆ โดยในแต่ละช่วงอายุจะมีพฤติกรรมแตกต่างกันออกไป โดยกลุ่มอายุ 18-25 ปี รับทราบข้อมูลของธุรกิจขายตรงจากสื่ออินเทอร์เน็ตมากที่สุด แต่สำหรับในช่วงอายุ 26-35 ปี นั้นรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจขายตรงจากสื่อโทรทัศน์มากที่สุด และสำหรับกลุ่มอายุ มากกว่า 36 ปี จะรับทราบข้อมูลของธุรกิจขายตรงจากสื่อหนังสือพิมพ์มากที่สุด


สิงหาคม-กันยายน 2 เดือนร้อนสงครามโฆษณาขายตรง


เร้าความสนใจยังไงก็ต้องทีวี
จากผลสำรวจพบว่า ผู้บริโภคเห็นสื่อที่เหมาะสมกับธุรกิจขายตรง นั่นหมายถึงว่ามีโอกาสจะจูงใจให้ผู้บริโภครับสารและเกิดพฤติกรรมการสมัครเป็นพนักงานขายหรือเกิดพฤติกรรมการซื้อสินค้าขายตรงได้นั้น จะต้องมุ่งเน้นที่โฆษณาทีวี ขณะเดียวกันหากเป็นญาติสนิทมิตรสหายก็มีอิทธิพลรองลงมา ส่วนโฆษณาทางอินเทอร์เน็ตก็มีผลต่อการรับรู้และทรงประสิทธิภาพเป็นอันดับต่อมา


ดังนั้นในฐานะสื่อที่ทรงอิทธิพลสูงสุดในระดับแมส การใช้จ่ายงบโฆษณาของธุรกิจขายตรงจะยังคงวางกลยุทธ์ผ่านสื่อทีวีเป็นหลัก เพราะส่งผลต่อการรับรู้และจดจำแบรนด์ ตลอดจนเป็นการเปิดโอกาสสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่ดีให้กับกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่าสื่อประเภทอื่น

ที่มา: http://www.positioningmag.com/Magazine/Details.aspx?id=52774

http://www.no-poor.com/
http://www.up-toyou.net/

หมอต้อยฟันธง ! ปี53 โต5 พัน ล้าน

***Giffarine New Product March 2010
เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ มีนาคม 2553


***กิฟฟารีนฉีกขายตรงผุดศูนย์ไลเซนส์
เป็นอาชีพทางเลือก ... เปิดโอกาสการเห็นและสัมผัสสินค้าใหม่และสินค้าที่มีอยู่เดิม ... ในการผลิตผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม ให้ได้มาตรฐานและปลอดภัยต่อผู้บริโภค


**ขายตรงหวั่นม็อบแรงเจ๊งยับ กิฟฟารีนเลื่อนสินค้าใหม่
ขายตรงหวั่นใจหลังแดงป่วนตลาดกรุงเทพฯ แต่ต่างจังหวัดยังดี หากรุนแรงเจ๊งหมดแน่


**กิฟฟารีนออนไลน์ ไม่ต้องขายสินค้าสร้างรายได้ง่าย ๆ
ซื้อสินค้าในราคาสมาชิก ลด 25 % เริ่มได้ตั้งแต่วันได้รหัสกิฟฟารีน


**หมอต้อยฟันธง ! ปี53 โต5 พัน ล้าน โรงงานใหม่กิฟฟารีนปั้ม 2 หมื่นล./ปี
ทั้งนี้โรงงานแห่งใหม่ของกิฟฟารีน ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ อาคารสำนักงาน โรงงานผลิตเครื่องสำอาง
(Central Lab) ซึ่งมีหน้าที่ในการตรวจสอบคุณภาพ และความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ และห้องปฏิบัติการวิจัยและพัฒนา (Research)


**กิฟฟารีน (Giffarine) ธุรกิจ รายได้เสริม สำหรับคนไทย ปั่นเงินร้อยให้เป็นเงินล้าน
นวรรตกรรมใหม่ ของธุรกิจ เป็นธุรกิจที่น่าจับตามองมาก ๆ ในปี 2553 เป็นต้นไป
ที่งานไบเทคบางนา ภายในงานท่านจะได้พบกับ ผลิตภัณฑ์น้องใหม่ที่มีออกมามากมายในปีนี้ ...


**กิฟฟารีนผนึกญี่ปุ่น เปิดตัวแบรนด์เทนชิเจาะวัยรุ่น
เร่งขยายฐานสมาชิกคนรุ่นใหม่ ผนึก 2 บริษัทยักษ์ญี่ปุ่นด้านวัตถุดิบเครื่องสำอาง เปิดตัวแบรนด์ใหม่ "เทนชิ"
รวมถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย ...

http://www.no-poor.com/
http://www.up-toyou.net/