กิฟฟารีน giffarine www.no-poor.com
ธุรกิจเสริม กิฟฟารีน
กิฟฟารีน ธุรกิจเสริม อาชีพเสริม รายได้เสริมออนไลน์ ปรึกษาเรา ตรวจสอบดวงชะตา ศึกษาพลังธาตุในตัวคุณ วิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อน ภาวะผู้นำและลักษณะงานที่เหมาะกับคุณ ก่อนเริ่มธุรกิจ-คุยกับเราที่ no-poor.com

วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2552

กิฟฟารีนผุดศูนย์ภูมิภาค รับตลาดขายตรงปีหน้าเฟื่อง

กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ เดินหน้าแผนการตลาดเข้ม ลงทุนเปิดศูนย์ธุรกิจเซ็นเตอร์ 6 แห่ง มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท รองรับจำนวนนักธุรกิจกิฟฟารีน ที่คาดว่า จะพุ่งขึ้นในปีหน้า เนื่องจากผู้บริโภคที่มากขึ้น และนักธุรกิจเครือข่ายต้องการรักษาความมั่นคงของรายได้ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวพ.ญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจในปีหน้าซึ่งคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะโตแค่ 0-2% ประกอบกับความเสี่ยงของอัตราการจ้างงานที่มีแนวโน้มลดลง โดยจำนวนคนว่างงาน คาดว่า จะสูงถึง 2 ล้านคน ส่งผลให้ประชาชนมองหาอาชีพที่สองเพิ่มขึ้น ซึ่งการเข้ามาเป็นนักธุรกิจอิสระของธุรกิจขายตรงถือเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ กิฟฟารีนเองคาดว่าจะมีนักธุรกิจอิสระเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 5-10% จากประมาณ 5 ล้านรหัส ในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับอุตสาหกรรมขายตรงโดยรวมที่จะมีนักธุรกิจอิสระเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันพ.ญ.นลินี ได้กล่าวถึงผลการสำรวจภาพรวมอุตสาหกรรมขายตรงโดย บริษัท ไทเลอร์ เนลสัน ซอฟเฟรส (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งร่วมกับสมาคมการขายตรงไทยด้วยว่า ผลสำรวจพบว่ามีถึง 73% ของกลุ่มตัวอย่าง 2,000 คนเข้าสู่ธุรกิจขายตรงเพื่อหารายได้เสริม ขณะที่ 65% ของกลุ่มตัวอย่างเข้าสู่ธุรกิจเพื่อซื้อสินค้าไว้ใช้เอง เนื่องจากเชื่อในคุณภาพของสินค้าและราคาที่เหมาะสมกว่าสินค้าที่ขายทั่วไปสำหรับศูนย์ธุรกิจเซ็นเตอร์ที่เตรียมสร้างในปีหน้า จะมีรูปแบบที่ทันสมัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันให้กับนักธุรกิจ และผู้บริโภคที่สมัครเป็นสมาชิก ทั้งการสั่งซื้อสินค้า การให้บริการคำปรึกษาในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ และเป็นศูนย์กลางการจัดประชุมและสัมมนาให้กับนักธุรกิจ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งในปีที่ผ่านมาได้สร้างศูนย์ธุรกิจดังกล่าวแล้วเสร็จไปแล้ว 5 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์พิษณุโลก ศูนย์พหลโยธิน ศูนย์สุราษฎร์ธานี ศูนย์ขอนแก่น และศูนย์พระประแดง ประมาณ 80 ล้านบาท โดยมีโครงการจะเปิดศูนย์ธุรกิจที่บางแคและลำปางในช่วงต้นปีหน้า รวมมูลค่ากว่า 400 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันกิฟฟารีน มีศูนย์ธุรกิจเปิดให้บริการกว่า 95 สาขาทั่วประเทศการลงทุนดังกล่าวเป็นการลงทุนต่อ เนื่องจากปีนี้หลังจากที่กิฟฟารีนได้ลงทุนทั้งภาคการผลิตโดยการเปิดโรงงานแห่งใหม่มูลค่า 700 ล้านบาท ณ นิคมอุตสาหกรรมนวนคร ซึ่งมีหัวใจสำคัญอยู่ที่ห้องทดลองกลาง (Central Lab) ซึ่งมีหน้าที่ในการตรวจสอบคุณภาพ และความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ และห้องปฏิบัติการวิจัยและพัฒนา (Research & Development Lab) ซึ่งมีหน้าที่ในการวิจัยและพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ใหม่ และภาคบริการโดยปรับปรุงและพัฒนาศูนย์ธุรกิจกิฟฟารีนอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปี 2551 ที่ผ่านมาสำหรับผลประกอบการรวมที่ผ่านมาของกิฟฟารีน ถึงปัจจุบัน มีประมาณ 30,000 ล้านบาท และได้มอบผลประโยชน์คืนกลับให้แก่นักธุรกิจกิฟฟารีนไปแล้วกว่า 14,000 ล้านบาท
ที่มา :www.manager.co.th
http://www.no-poor.com/
http://www.up-toyou.net/

ไม่มีความคิดเห็น: