กิฟฟารีน giffarine www.no-poor.com
ธุรกิจเสริม กิฟฟารีน
กิฟฟารีน ธุรกิจเสริม อาชีพเสริม รายได้เสริมออนไลน์ ปรึกษาเรา ตรวจสอบดวงชะตา ศึกษาพลังธาตุในตัวคุณ วิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อน ภาวะผู้นำและลักษณะงานที่เหมาะกับคุณ ก่อนเริ่มธุรกิจ-คุยกับเราที่ no-poor.com

วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2553

ขายตรงปีวัวไฟ ปิดบัญชี4.7หมื่นล้าน

ธุรกิจเครือข่าย ขายตรง ปิดบัญชี ขายตรงปีวัวไฟ ค่ายใหญ่อันดับต้นๆ สอบผ่าน ค่ายเล็กทำธุรกิจหืดขึ้นคอ หลังโดนพิษ 'เศรษฐกิจ-การเมือง' เล่นงาน สิ้นปียอดขายรวมโตไม่ถึง 10% ปิดหีบยอดขาย จอดป้ายแค่ 4.7 หมื่นล้าน 'แอมเวย์' โกยเฉียด 13,000 ล้าน ด้าน 'กิฟฟารีน' ปลื้มใจ! ยอดขายโต 10% แตะตัวเลข 4,600 ล้าน ส่วนแชมป์ตลอดกาลอย่าง 'ปูแดง ไคโตซาน'ขายตรงสินค้าเกษตรต้นแบบ กวาดทะลุเป้า 3,600 ล้าน ม้ามืด 'นีโอไลฟ์' ขวัญใจรากหญ้า รับเหนาะๆ 1,850 ล้าน ด้าน 'เจริญโอสถ-โอทู' เฟื่องฟูเหลือหลาย ยอดขายโตพุ่งพรวด หลังโหมกระแสแรง ผ่านสื่อทีวีดาวเทียม...กูรูขายตรงชี้ ปีหน้าฟ้าใหม่ ยังคงเป็นโอกาสทองของธุรกิจขายตรง หากทุกบริษัทสามารถสร้างศรัทธา และสร้างความเชื่อมั่นได้แล้ว ฟันธง!ปีเสือดุ ธุรกิจขายตรงต้องคำราม!

หากย้อนมองภาพรวมของธุรกิจขายตรงตลอดทั้งปี 2552 แล้ว จะพบว่า แทบทุกค่ายบริษัทต้องทำ งานกันอย่างหนักมาตลอดทั้งปี หลังได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลก รวมถึงปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจและปัญหาวิกฤติการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ ประกอบกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น และประชาชนลดการจับจ่ายใช้สอยลง ทำให้ต้นทุนทางธุรกิจ ทั้งผู้ประกอบการ และนักธุรกิจอิสระ ต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้นตามไปด้วย

แม้ว่า ธุรกิจขายตรงจะยังคงมีปัจจัยบวกเข้ามาเสริม โดยเฉพาะคนว่างงาน ที่ได้ขยับขยายเข้ามาสู่ธุรกิจขายตรงมากขึ้นเป็นประวัติการณ์ก็ตาม แต่จำนวนสมาชิกขายตรงที่เพิ่มขึ้น ก็ไม่ได้ทำให้เม็ดเงินในธุรกิจขายตรงโดยรวมแพร่สะพัดมากขึ้นเท่าใด เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

สำหรับอัตราการเติบโตของธุรกิจขายตรงโดยรวม จากการประ เมินในช่วงต้นปีที่ผ่านมา คาดว่า น่าจะเติบโตได้กว่า 10% แต่พอเอาเข้าจริงๆ หลังเจอปัจจัยลบรุมเร้าทางเศรษฐกิจและการเมือง แม้ว่า ผู้ประ กอบการธุรกิจขายตรงจะมองเห็นวิกฤติเป็นโอกาส แต่กับผลสรุปยอดขายสิ้นปีนี้ของแต่ละบริษัทอย่างไม่เป็นทางการแล้ว พบว่า มูลค่าตลาดขายตรงโดยรวม ขยับเติบโตได้เพียง 7% หรือมีมูลค่าตลาดรวม 4.7 หมื่นล้านบาท เพียงเท่านั้น เรียกว่า เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ที่มีเม็ดเงินสะพัดมากกว่า 4.4 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ก็ถือว่า เป็นความโชคดีที่ธุรกิจขายตรงยังคงเติบโตได้ดีตลอดทั้งปี 2552 โดยเฉพาะบริษัทขายตรงค่ายใหญ่อันดับต้นๆ ซึ่งมีแบรนด์ติดตลาดแล้ว ยังคงแหวกเมฆฟันฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจรอดพ้นไปได้ด้วยดี หลายค่ายเติบโตกว่า 10% บางค่ายโตแค่ 7-8% และก็มีบางค่ายเติบโตเพียง 5% ส่วนค่ายบริษัทเล็กๆ ที่รอดพ้นวิกฤติก็ทำได้แค่เสมอตัว หรือบางบริษัทยอดขายก็ลดลงเล็กน้อย แต่สำหรับขายตรงค่ายเล็กที่ไม่มีการสร้างแบรนด์ หรือแบรนด์ยังไม่แข็งพอ หรือแบรนด์ไม่เป็นที่รู้จักแล้ว ย่อมต้องตกที่นั่งลำบาก บางบริษัทถึงคราต้องปิดตัว หรือดับสูญ หรือล้มหายตายจากไปจากวงการ ส่วนที่อยู่ได้ ก็ได้แค่ประคองตัวให้อยู่รอด ก็เท่านั้น

สำหรับในปีหน้า แม้ว่า จะยังคงเป็นปีเสือดุ แต่ก็เชื่อว่า ธุรกิจขายตรงโดยรวมจะเติบโตดีขึ้นกว่าปีนี้ หากไม่มีปัจจัยลบทางการเมืองเข้ามาแทรก...ด้วยเพราะเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัว อันจะทำให้เม็ดเงินในระบบแพร่สะพัดมากขึ้น นั่นหมายถึงว่า จะมีการจับจ่ายภาคประชาชนมากขึ้น อีกทั้งสภาพการว่างงาน ก็ยังคงดำรงอยู่ ก็เชื่อว่า คน ว่างงานเหล่านั้น ส่วนหนึ่งก็จะถ่ายเทเข้ามาสู่ธุรกิจขายตรง

แต่สิ่งสำคัญสำหรับผู้ประกอบการ ก็คือ การปรับตัวรับมือให้พร้อม โดยเฉพาะการสร้างแบรนด์ให้เกิดการยอมรับ การใช้สื่อช่วยในการประชาสัมพันธ์ การหาช่องทางใหม่ๆ เพื่อการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าและประชาชน รวมถึงการมุ่งเน้นอบรมผู้นำ หรือการสร้างคน หรือการสร้างผู้นำให้เป็นนักธุรกิจที่มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น และดำเนินธุรกิจอย่างมีจรรยาบรรณมากขึ้น ซึ่งปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวมา ก็น่าจะช่วยให้ทุกบริษัทขายตรงฝ่าฟันอุปสรรคในปีเสือดุไปได้อย่างแน่นอน

สำหรับผลประกอบการของแต่ละบริษัทขายตรงนั้น ตามที่ได้เก็บรวบรวมข้อมูลตัวเลขมาบาง บริษัท ก็พอสรุปได้ว่า 'แอมเวย์' ยังคงเป็นจ้าวบัลลังก์ธุรกิจขายตรง ด้วยยอดขายทะลุทะลวงเกือบเตะ 13,000 ล้านบาท, ส่วน 'กิฟฟารีน' เตะตัวเลขอยู่ที่ 4.6 พันล้านบาท...ด้าน 'ปูแดง ไคโตซาน' มาแรงแซงโค้งคว้าชัย 3.6 พันล้านบาท ถัดมา 'นีโอ ไลฟ์'1,850 ล้านบาท, โอทู 900 ล้านบาท และ 'เอเชียนไลฟ์' อยู่ที่ 200 ล้านบาท


ตลาดขายตรงปีวัวปิดบัญชี4.7หมื่นล.

พญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด ในฐานะนายกสมาคมการขายตรงไทย เปิดเผยถึงภาพรวมของธุรกิจขายตรงในปีนี้ว่า แม้ว่า ธุรกิจขายตรงจะได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลก รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองภายในประเทศ ที่ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน จนภาคธุรกิจขายตรงต้องแบกรับภาระต้นทุนด้านการบริหารจัดการเพิ่ม แต่ก็ใช่ว่า ธุรกิจขายตรงโดยภาพรวมจะไม่เติบโต โดยทั้งปีนี้ ธุรกิจขายตรงมีอัตราการเติบโต อยู่ที่ 7% ต่ำกว่าที่ประมาณการณ์เอาไว้ว่า น่าจะมีอัตราการเติบโต 10% โดยมูลค่าตลาดรวมทั้งปี ตัวเลขอยู่ที่ประมาณกว่า 4.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 3 พันล้านบาท จากปีก่อนหน้าที่มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 4.4 หมื่นล้านบาท

สำหรับ 'กิฟฟารีน' แล้ว การดำเนินธุรกิจ แทบจะเรียกว่า ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจน้อยมาก เนื่องจากบริษัทมีฐานสมาชิกจำนวนมาก โดยมีสมาชิกที่สมัครเข้ามาใหม่มากกว่า 5,500,000 รหัส และเมื่อสมัครเข้ามาแล้ว ก็จะดำรงความเป็นสมาชิกของ 'กิฟฟารีน' ไปตลอดชีพ และที่พบส่วนมาก สมาชิกของ 'กิฟฟารีน' เริ่มจะมีอายุน้อยลงเรื่อยๆ ส่วนสมาชิกที่มีรายได้จากการทำธุรกิจ "กิฟฟารีน" นั้น ขณะนี้มีอยู่มากกว่า 3 แสนคน และมีการกระจายสินค้าผ่านผู้บริโภคของ 'กิฟฟารีน' ประมาณ 5 ล้านชิ้นต่อเดือน

"ในช่วง 11 เดือนแรกที่ผ่านมา 'กิฟฟารีน' ปิดยอดขายอยู่ที่ 4,200 ล้านบาท ส่วนช่วงเดือนสุดท้ายที่เหลือปลายปีนี้ น่าจะทำได้อีกหลายร้อยล้านบาท และอาจจะส่งผลให้ 'กิฟฟารีน' ปิดยอดขายทั้งปี เติบโต 10% หรือตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 4,600 ล้านบาท ส่วนปีหน้าตั้งเป้ากวาดยอดขาย 5,000 ล้านบาท"
ที่มา : http://www.taladvikrao.com,http://www.mlm.in.th

http://www.no-poor.com/
http://www.up-toyou.net/

ไม่มีความคิดเห็น: