กิฟฟารีน giffarine www.no-poor.com
ธุรกิจเสริม กิฟฟารีน
กิฟฟารีน ธุรกิจเสริม อาชีพเสริม รายได้เสริมออนไลน์ ปรึกษาเรา ตรวจสอบดวงชะตา ศึกษาพลังธาตุในตัวคุณ วิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อน ภาวะผู้นำและลักษณะงานที่เหมาะกับคุณ ก่อนเริ่มธุรกิจ-คุยกับเราที่ no-poor.com

วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2552

กิฟฟารีนสื่อความเป็นหมอต้อย ด้วยบุคลิกไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ

ในวงการขายตรงไทยถ้าเอ๋ยชื่อ หมอต้อย-แพทย์หญิงนลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด ทุกคนต้องร้องอ๋อกันหมด ซึ่งคุณ หมอคนสวยนอกจากจะมีวิธีการเลือกดูแลรักษาสุขภาพ ให้ดูฟิตแอนด์เฟิร์มแล้วยังมีแนวทางในการบริหารงานที่ สามารถถ่ายทอดออกมาให้เห็นเป็นบุคลิกอย่างหนึ่งที่สะท้อนออกมาให้ทุกคนสามารถจับต้องได้ผ่านตัวบริษัทกิฟฟารีน และพนักงานที่ทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งนี้ ด้วยบุคลิกของหมอต้อย อย่างหนึ่งที่เห็นเด่นชัด คือ ความร่าเริง, เป็นคนง่ายๆ อยาก ให้คนรอบข้างมีความสุข ที่สำคัญ ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้หล่อหลอมและได้ถ่ายทอดความรู้สึกตรงนี้ลงมาสู่พนักงาน, สมาชิกและแม่ทีมทุกคน จนวันนี้กิฟฟารีนจึงกลายเป็นแบรนด์ที่สะท้อนความเป็นหมอต้อยใน การเป็นมิตรกับทุกคน ปรารถนาอยากจะช่วยให้คนไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นด้วยการสร้าง งาน สร้างอาชีพเสริมเพื่อเป็นกระเป๋าเงินที่ 2 ให้กับคนไทย รวมทั้งความมีเหตุผลเพราะความ ที่เป็นหมอจึงไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ทุกอย่างต้องมีเหตุผลสามารถพิสูจน์ได้จนเป็นเหตุให้ผลิตภัณฑ์ทุกตัวของบริษัทต้องมีผลงานวิจัยที่สามารถกล่าวอ้างถึงสรรพ คุณที่แท้จริงได้ ไม่ใช้คิดอยากจะผลิตอะไรออกได้ก็ทำได้โดยไม่ต้องมีผลงานวิจัยออกมาชี้วัดว่า ถึงผลที่เกิดขึ้นว่าช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้แข็ง แรงอย่างไรเมื่อรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตัวนั้นตัวนี้เข้าไป รวมทั้งไม่ได้มีการตั้งราคาขายจนสูงเกินกว่าเอื้อของรายได้คนไทย เพื่อให้คนไทยสามารถซื้อบริโภคซ้ำได้ ซึ่งตรงนี้ แหละคือจุดแข็งที่ทำให้ตนสามารถสู้กับแบรนด์ ใหญ่ๆ ในท้องตลาดได้ ที่สำคัญคือการบอกซ้ำๆ กับสมาชิกและพนักงานของกิฟฟารีนว่าบริษัทแห่งนี้คือบ้านของเราทุกคน เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้มาเอา ไปทำพัฒนาอะไรบ้าง จึงเป็นเหตุให้พนักงาน, สมาชิก และแม่ทีม รู้สึกรักองค์กรแห่งนี้ไม่อยาก ไปไหน รู้สึกถึงความเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นเจ้าของบ้านไม่เพียงแต่การมีความจงรักภักดีต่อ ผลิตภัณฑ์ที่ซื้อใช้ ซื้อขาย เท่านั้น แม้งานบริหารของบริษัทกิฟฟารีนจะ ต้องดูแลพนักงานด้วยกัน 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่เป็นพนักงานประจำ และกลุ่มที่เป็นนักธุรกิจไม่ใช่พนักงานที่ทำงานประจำกับบริษัท แต่ หัวใจของการบริหารงานของคนทั้ง 2 กลุ่ม คือความพยายามที่จะเข้าใจคนว่าแต่ละคนต้องการอะไร รวมทั้งการวิเคราะห์ถึงที่มาของปัญหา เพราะข้อดีอย่างหนึ่ง คือ กิฟฟารีนเป็น ธุรกิจที่ตนเริ่มต้นทำตั้งแต่หมายเลขศูนย์ ไม่มีอะไรเลย ไม่ใช่เกิดจากการเป็นธุรกิจของวงศ์ตระกูลทำให้ตนได้มีโอกาสลงไปคลุกคลีอยู่กับบริษัทแห่งนี้ตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเด็กอ่อนๆ ตัวเล็กๆ จนวันนี้ก้าวสู่วัยการเติบโตที่เป็นผู้ใหญ่ มากขึ้น จึงทำให้ตนเข้าใจถึงทุกขบวนการของปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นและการเผชิญปัญหาว่าผ่านพ้นมาได้อย่างไร รวมทั้งการพูดความจริงไม่หลอกลวงเอา เปรียบคนอื่นๆ ไม่ว่าจะด้วยถ้อยคำหรือการกระทำ จึงทำให้กิฟฟารีนเติบโตขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้ที่สามารถออกไปยืนแข่งกับแบรนด์ต่างชาติ และการออกไปบุกเปิดตลาดต่างประเทศได้อย่างสง่างาม
ที่มา: สยามธุรกิจ http://www.siamturakij.com/home/news/display_news.php?news_id=4947

http://www.no-poor.com/
http://www.up-toyou.net/

ไม่มีความคิดเห็น: